• แมวไทยแมวไทย (Siamese Cat) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Felis silvestris catus แมวไทยจัดเป็นแมวพันธุ์แท้ที่สืบเชื้อสายมาจากแมวโบราณ เป็นแมวที่เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย และถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณว่ามีรูปร่าง ลักษณะและสีสันที่สวยงาม คนไทยนิยมเลี้ยงแมวมาแต่โบราณ โดยมีความเชื่อว่าแมวที่มีลักษณะดีจะให้คุณแก่ผู้เลี้ยง จะทำให้ผู้เลี้ยงมีโชคลาภ มีฐานะร่ำรวย ค้าขายได้กำไร เจริญยศศักดิ์สูงขึ้น เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป หรือได้รับสิ่งของที่เป็นมงคล ส่วนแมวที่มีลักษณะไม่ดี มีความเชื่อว่าจะให้โทษแก่ผู้เลี้ยง จึงได้มีการจดบันทึกเรื่องราวไว้ในหนังสือตำราแมว โดยรวมลักษณะที่ดีแบ่งเป็น 17 ชนิด และลักษณะร้าย 6 ชนิด ปัจจุบันแมวไทยโบราณที่มีลักษณะดีเหลืออยู่เพียง 5 ชนิด
    • การเลี้ยงการเลี้ยงแมวไทย แต่เดิมผู้เลี้ยงแมวจะเลี้ยงด้วยอาหารที่ปรุงขึ้นเองในครัว อ้างอิง: https://www2.m-culture.go.th/samutsongkhram/ewt_dl_link.php?nid=741
      • การทำหมันการทำหมันแมว เป็นการควบคุมประชากรแมวไม่ให้มีมากเกินไป โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อแมวโตขึ้นจนเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธฺ์แล้ว จะแสดงพฤติกรรมติดสัด ซึ่งเป็นการดึงดูดเรียกแมวเพศตรงข้ามให้มาผสมพันธุ์ เช่น การส่งเสียงร้องหง่าว ดุร้าย ก้าวร้าว ฉี่เรี่ยราดวางอาณาเขตไม่เป็นที่ หนีออกไปเที่ยวนอกบ้าน และอาจจะกลับมาพร้อมกับบาดแผลจากการต่อสู้ รวมถึงอาจจะติดโรคมาจากแมวตัวอื่นได้ การทำหมันแมวตัวผู้ จะผ่าเอาลูกอัณฑะและท่อนำอสุจิออก เป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อน แผลจะหายเร็ว ส่วนการทำหมันแมวตัวเมีย จะเป็นการผ่าตัดมดลูกและรังไข่ออกทั้งสองข้าง เป็นการผ่าตัดที่ใหญ่กว่าเพราะจะต้องเปิดช่องท้อง จะต้องใช้เวลาดูแลพักฟื้นหลังผ่าตัดนานกว่า https://www.shirt4social.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7/#:~:text=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%20%E0%B8%88%E0%B8%B0,%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2
    • ความเชื่อแมวเป็นสัตว์ที่เป็นมงคลและไม่เป็นมงคล อ้างอิง https://so01.tci-thaijo.org/index.php/The_New_Viridian/article/view/255609/171381
      • เครื่องรางวัตถุมงคล เครื่องราง และของขลังต่าง ๆ ตามมายาคติของศาสตร์เทวะมันตราเพราะเชื่อว่าจะสามารถช่วยบันดาลหรือปกป้องรักษาให้แคล้วคลาด ปลอดภัย รวมไปถึงสามารถช่วยดลบันดาลให้เกิดเรื่องดีขึ้นในชีวิต อ้างอิง: https://horoscope.kapook.com/view201187.html
        • ลูกกรอกแมวซากลูกแมวที่ตายในท้อง หากนำมาบูชาจะเกิดลาภผล อ้างอิง: https://th.wikipedia.org/wiki/แมวไทย
        • เพชรตาแมวเพชรตาแมวเกิดจากแมวที่ตาเป็นต้อหิน ไม่สามารถใช้การได้ และเมื่อแมวตัวดังกล่าวได้ตายลง ดวงตาข้างที่เป็นต้อก็จะแข็งขึ้นราวกับก้อนหิน แต่มีความสวยงาม แวววาวราวกับเพชร หากใครครอบครองจะเกิดโชคลาภ คิดสิ่งใดหรือปรารถนาสิ่งใดก็จะสมประสงค์ดังหวัง อ้างอิง https://www.stkc.go.th/info/เพชรตาแมว- อัญมณีลี้ลับนี้มีจริงหรือไม่? ; https://th.wikipedia.org/wiki/แมวไทย
        • รกแมวเครื่องรางของขลังจากธรรมชาติ เชื่อกันว่าเป็นของดี ของหายาก เพราะปกติเวลาแมวคลอดลูก มักจะแอบไปคลอดในที่ลับตา ตามความเชื่อของคนโบราณว่ากันว่าหากใครที่ได้บูชารกแมวจะทำให้ทำมาค้าขึ้น ช่วยเรียกทรัพย์ เป็นเมตตามหานิยม มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น และให้โชคลาภแก่ผู้พกพา อ้างอิง: https://horoscope.kapook.com/view201187.html
      • ประเพณีสิ่งที่นิยมถือประพฤติปฏิบัติสืบ ๆ กันมาจนเป็นแบบแผน ขนบธรรมเนียม หรือจารีตประเพณี อ้างอิง: https://dictionary.orst.go.th/index.php
        • การแห่นางแมวการแห่นางแมวขอฝน เป็นความเชื่อที่สืบทอดกันต่อมาว่า เมื่อฝนไม่ตกตามฤดูกาล ชาวนาจะจัดพิธีแห่นางแมวโดยนำแมวเพศเมีย พันธุ์สีสวาด แมวพันธุ์นี้จะมีขนสีเทาเข้มคล้ายกับสีของเมฆฝน แต่ในบางจังหวัดก็ใช้แมวลายเพศเมีย โดยใส่ลอบเป็นขบวนแห่วนไปรอบ ๆ หมู่บ้าน เมื่อผ่านบ้านใดเจ้าของบ้านก็จะนำน้ำมาสาดใส่แมวเพื่อให้แมวร้องส่งเสียงออกมาจากความเชื่อที่ว่าการที่แมวร้องนั้นเป็นสัญญาณที่เชื่อว่าฝนจะตก ทั้งนี้การแห่นางแมวมีการเพลงร้องประกอบในขบวนแห่นางแมวขอฝนว่า “นางแมวเอย ขอฟ้าขอฝน ขอน้ำมนต์ รดนางแมวบ้าง”เนื้อร้องต่อจากนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ อ้างอิง: https://so01.tci-thaijo.org/index.php/The_New_Viridian/article/view/255609/171381
        • การโกนผมไฟการโกนผมไฟจะมีพิธีการทำขวัญด้วยตามความเชื่อดั้งเดิมของคนไทยว่าทุกคนจะต้องมี “ขวัญ” ประจำตัวอยู่ หากขวัญหายหรือขวัญเสียจะทำให้ผู้นั้นเกิดเจ็บป่วยได้ หลังจากโกนผมไฟและทำขวัญแล้วจะเป็นพิธีการลงอู่หรือเปล โดยนำฟัก หินบดยา ถุงผ้าบรรจุข้าวเปลือก ถั่วงา ถ้าเป็นเด็กผู้ชายให้มีสมุดและดินสอส่วนเด็กผู้หญิงให้มีเข็มและด้ายพร้อมกับมีแมวคราว นำสิ่งเหล่านี้ใส่ในเปลพร้อมไกวเปล 3 ครั้ง แล้วเอาแมวออกจากเปล แล้วอุ้มเด็กลงไปนอนในเปลแล้วไกว 3 ครั้ง พร้อมกล่าวคำให้พรแก่เด็ก อ้างอิง: https://so01.tci-thaijo.org/index.php/The_New_Viridian/article/view/255609/171381
        • การแต่งงานไทยการแต่งงานของคนไทยโบราณนั้นจะมีพิธีกรรมขั้นตอนหนึ่งเรียกว่า “การปูที่นอนและส่งตัวเจ้าสาว” ซึ่งจะต้องมี “แมว”เป็นองค์ประกอบหนึ่งของพิธีกรรมด้วย การปูที่นอนจะเป็นพิธีที่ทำในวันที่รดน้ำแต่งงานแล้ว จะมีการเชิญคู่สามีภรรยาสูงอายุที่เป็นคู่แต่งงานที่มีความสุขประสบความสำเร็จในชีวิตสมรสเป็นคู่ปูที่นอนและทั้งสองก็นอนพอเป็นพิธี เรียกว่าฤกษ์เรียงหมอนเพื่อเป็นเคล็ดตามความเชื่อให้คู่แต่งงานใหม่มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขดุจเดียวกับคู่สามีภรรยาที่ได้รับเชิญมา ขั้นตอนพิธีนี้จะต้องมีหินบดยา ฟักเขียว แมวตัวผู้สีขาว ถุงใส่ถั่วงาและข้าวเปลือก โดยผู้ทำพิธีปูที่นอนหยิบสิ่งของเหล่านี้วางบนที่นอนก่อนพร้อมทั้งอุ้มแมววางลงบนฟูก แล้วกล่าวคำให้พรและลงนอนพอเป็นพิธี อ้างอิง: https://so01.tci-thaijo.org/index.php/The_New_Viridian/article/view/255609/171381
        • พระราชเฉลิมพระราชมณเฑียรการสมโภชปราสาทราชมณเฑียรสถานที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หากเปรียบเทียบกับประเพณีชาวบ้านก็เปรียบได้กับการขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่ต้องมีการนำ “แมว” มาร่วมด้วยเช่นเดียวกับประเพณีของชาวบ้าน อ้างอิง:https://so01.tci-thaijo.org/index.php/The_New_Viridian/article/view/255609/171381
        • การห้ามแมวดำกระโดดข้ามศพโดยเชื่อว่าหากแมวดำกระโดดข้ามศพจะทำให้ศพนั้นลุกขึ้นมาได้ อ้างอิง: https://so01.tci-thaijo.org/index.php/The_New_Viridian/article/view/255609/171381
    • อาหารแมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเลือกกิน ดังนั้นอาหารที่ให้ต้องมีกลิ่นหอม การสับเปลี่ยนอาหารจะทำให้แมวไม่เบื่ออาหาร อ้างอิง: https://www2.m-culture.go.th/samutsongkhram/ewt_dl_link.php?nid=741
      • ข้าวคลุกปลาโดยผู้เลื้ยงส่วนใหญ่ให้ข้าวคลุกกับปลาเป็นอาหารแมว เนื่องจากอาหารที่หาได้ง่ายและโดยธรรมชาติแมวอาหาร คือ ปลา อ้างอิง: วิชิต สิงห์ทอง. (2540). สารคดี ชุด สัตว์เลี้ยงไทย แมวไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 1), กรุงเทพฯ: เลิฟแอนด์ลิพเพรส.
      • หนูเป็นอาหารของแมว หากแมวหิวจัด อ้างอิง: วิชิต สิงห์ทอง. (2540). สารคดี ชุด สัตว์เลี้ยงไทย แมวไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 1), กรุงเทพฯ: เลิฟแอนด์ลิพเพรส.
      • นกเป็นอาหารของแมว หากแมวหิวจัด อ้างอิง: วิชิต สิงห์ทอง. (2540). สารคดี ชุด สัตว์เลี้ยงไทย แมวไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 1), กรุงเทพฯ: เลิฟแอนด์ลิพเพรส.
    • แมวในสำนวนไทย“แมว” ที่ปรากฏในสำนวนไทยยังนำมาใช้เปรียบเทียบเพื่อแสดงให้เห็นลักษณะของคน ใช้เพื่อเปรียบเทียบเรื่องราวหรือเหตุการณ์เพื่อประโยชน์ในการทำให้เข้าใจเรื่องราวหรือสถานการณ์นั้นได้ชัดเจน และ ใช้เปรียบเทียบเหตุการณ์หรือเรื่องราวเพื่อเป็นการสอนหรือการเตือนให้มีความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตประจำวัน อ้างอิง:https://so01.tci-thaijo.org/index.php/The_New_Viridian/article/view/255609/171381
    • แมวไทยยุคปัจจุบันปัจจุบันแมวไทยที่ปรากฏในตำราซึ่งยังหลงเหลืออยู่คือ วิเชียรมาศ, โกนจา, ขาวมณี และมาเลศถูกต่างชาติจดสิทธิบัตรไปแล้ว แบ่งเป็น วิเชียรมาศจดโดยอังกฤษ ส่วนโกนจา, ขาวมณี และมาเลศจดโดยสหรัฐ ยกเว้น ศุภลักษณ์เท่านั้นที่ยังไม่มีชาติใดจดสิทธิบัตร รวมถึง แมวไทยสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบขึ้น อ้างอิง: https://th.wikipedia.org/wiki/แมวไทย
      • ศุภลักษณ์ศุภลักษณ์หรือแมวทองแดงมีขนเล็บ ลิ้นสีทองแดง (สีน้ำตาลเข้มคล้ายสีสนิม) ดวงตาออกเป็นลักษณะเหลืองอำพัน มีรูปร่างขนาดกลาง สง่า น้ำหนักตัวพอประมาณ ขายาวเรียวฝ่าเท้าอวบ ศีรษะค่อนข้างกลมกว้าง ด้วยสีขนออก น้ำตาลเข้ม เหมือนกับสีของทองแดง มีตาสีออกเหลือง หรือ สีอำพัน หนวดมีสีเหมือนลวดทองแดง และบริเวณตามส่วนของร่างกาย เช่นหน้า หู ปลายขา และ หางจะมีสีน้ำตาลเข้มกว่าบริเวณลำตัวทั่วๆ หากเลื้ยงไว้จะนำยศศักดิ์ให้ผู้เลี้ยง อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766//แมวโบราณ
      • มาเลศแมวมาเลศ หรือ แมวโคราช หรือ แมวสีสวาดถือเป็นแมวแห่งโชคลาภ โดยแมวเพศผู้มีสีเหมือนดอกเลา จึงเรียกแมวสีดอกเลา โดยมีขนสั้น สีกายเป็นสีดอกเลา เล็บ และหนวดสีขาว ดวงตาสีขาวใส มีเสียงก้องไพเราะ ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศนภาลัย นอกจากนี้ ถือเป็นแมวแห่งโชคลาภ นิยมใช้ในพิธีกรรมขอฝนเพื่อมีสีขนเหมือนเมฆฝน อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766//แมวโบราณ
      • วิเชียรมาศแมววิเชียรมาศเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ โดยใช้ชื่อว่า แมวสยาม (Siamese Cat)เป็นแมวที่มีลำตัวสีขาว มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ รวมเก้าแห่ง ปัจจุบันมีการผสมสายพันธุ์ใหม่ เกิดแต้มสีแปลก ๆ มากขึ้น เช่น สีกลีบบัว นัยน์ตาแมววิเชียรมาศจะมีสีฟ้าใส มีความเชื่อว่าหากใครเลี้ยงไว้จะได้ทรัพย์สินเพิ่มพูน อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766//แมวโบราณ
      • โกนจาแมวสีดำสนิททั้งตัว มีร่องสีขาวยาวจากใต้คางไปตามท้องจนสุดทวาร นัยน์ตาสีเหลืองดอกบวบ ปากแหลม หางเรียวงาม มักเดินทอดน่อง เท้าคล้ายสิงห์ อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766//แมวโบราณ
      • ขาวมณีแมวไทยที่ไม่ได้อยู่ในตำราแมวโบราณ สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดในสมัยรัตนโกสินทร์ แต่ถือว่ามีลักษณะดี และพบมากที่สุดในปัจจุบัน มีสีขาวทั้งตัว นัยน์ตาสีฟ้าหรือเหลืองอำพัน อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766//แมวโบราณ
      • วิฬาร์กรุงเทพแมววิฬาร์กรุงเทพ หรือ Wila Krungthep cat หรือแมวไทยมอคค่า เป็นแมวไทยสายพันธุ์ใหม่ พบในปี พ.ศ. 2561 มีลักษณะ ดวงตาโทนสีฟ้า สีฟ้าอมเขียว หรือสีเขียวอมเหลือง จุดเด่นอยู่ที่ขนมีสีน้ำตาลทอง ปลายจมูกมีสีชมพู แต่สันจมูกนั้นมีสีเข้มคล้ายแมวใส่หน้ากาก มีรอยแต้ม 9 แห่ง แบบแมววิเชียรมาศ แต่จะเป็นสีจางมากๆ รอบดวงตาเป็นวง มีสีซีดคล้ายแมวใส่แว่น อุ้งเท้าสีชมพู อ้างอิง: https://catsofthailand.wordpress.com/2018/02/12/เปลี่ยนชื่อแมวมอคค่า-เป/
      • กลีบบัวแมวสีกลีบบัว หรือ Thai Lilac เป็นแมวไทยสายพันธุ์ใหม่ พบในปี พ.ศ. 2559 มีลักษณะ ขนมีสีเทาอมชมพูล้วนทั้งตัวคล้ายกลีบดอกบัวบูชาพระ อุ้งเท้ามีสีชมพู อ้างอิง: https://catofsiam.blogspot.com/2016/10/6-cats-of-thailand_72.html
    • แมวไทยโบราณจากสมุดข่อยในสมัยกรุงศรีอยุธยา แมวไทยโบราณ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.แมวมงคลให้คุณมีทั้งหมด 17 ชนิด 2. แมวร้ายให้โทษมีทั้งหมด 6 ชนิด อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
      • แมวให้คุณแมวให้คุณ หรือ แมวมงคลให้คุณ ซึ่งปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว 12 ชนิด ได้แก่ นิลรัตน์,วิลาศ,เก้าแต้ม,แซมเศวต,รัตนกัมพล,นิลจักร,มุลิลา,กรอบแว่นหรืออานม้า,ปัดเศวตรหรือปัดตลอด,กระจอก,สิงหเสพย์,การเวก และ จตุบท จึงเหลือเพียง 4 ชนิดเท่านั้นที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • จตุบทแมวสีดำ นอกจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงข้อพับทั้งสี่ข้างเป็นสีขาว นัยน์ตาเป็นสีเหลืองคล้ายดอกโสน ตำราว่าแมวชนิดนี้คนธรรมดาไม่ควรเลี้ยง ควรเลี้ยงเฉพาะราชนิกูล อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • การเวกแมวดำอีกชนิดหนึ่ง แต่ไม่ดำหมดทั้งตัว จะมีแต่ปลายจมูกที่มีแต้มสีขาวเล็กน้อยนัยน์ตาทั้งสองข้างสีเหลืองอำพันสดใส ถ้าได้เลี้ยงจะนำโชคลาภมาให้เจ้าของเปลี่ยนฐานะขึ้นไปเรื่อย ๆ อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • สิงหเสพย์แมวสิงหเสพย์ หรือแมวโสงหเสพยแมวชนิดนี้มีขนสีดำทั้งตัว แต่มีสีขาวอยู่บริเวณริมฝีปาก จมูกและรอบคอ นัยน์ตาสีเหลืองทอง หากใครเลี้ยงไว้จะทำให้มีสมบัติเพิ่ม อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • กระจอกแมวดำลักษณะคล้ายแมวสิงหเสพย์แต่ลำตัว อ้วนกลมน่ารักกว่า ขนดำเป็นมัน มีสีขาวที่รอบปากเท่านั้น ส่วนอื่น ๆ คล้ายกัน นัยน์ตาสีเหลือง ใครเลี้ยงไว้จะได้ทรัพย์สินเงินทอง เป็นไพร่จะได้กลายเป็นนาย อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • ปัศเวตปัศเวตหรือปัดตลอด มีขนสีดำเป็นมันราบเรียบ ยกเว้นปลายจมูกจนถึงปลายหางมีขาว ดวงตามีสีเหลืองดั่งพลอยสะท้อนแสง ใครเลี้ยงไว้จะช่วยชูชื่อเสียงวงศ์ตระกูลให้เป็นที่รู้จักทั่วไป อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • กรอบแว่นกรอบแว่น หรือ อานม้า เป็นแมวมีขนสีขาวทั้งตัว ยกเว้นกลางหลังนั้นจะมีสีดำเหมือนอานม้าอยู่ และบริเวณขอบตาทั้งสองข้างเป็นสีดำ เหมือนกรอบแว่นตา ใครเลี้ยงไว้จะมีค่ามหาศาล และทำให้มีเกียรติยศชื่อเสียง อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • มุลิลามีขนสีดำ ขนเรียบเป็นมัน แต่บริเวณสองหูเป็นสีขาว นัยน์ตาสีเหลืองราวกลีบดอกเบญจมาศ แมวชนิดนี้ตำราว่าให้เลี้ยงได้เฉพาะพระสงฆ์ เพื่อช่วยให้มีจิตใจตั้งมั่นในการเล่าเรียนไม่ออกนอกลู่นอกทาง หูสีขาวของแมวเปรียบดังหูทิพย์ ส่งเสริมให้นักปราชญ์หรือพระสงฆ์สามารถศึกษาพระธรรมหรือเล่าเรียนสำเร็จตามปรารถนา อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • นิลจักรแมวสีดำสนิท ยกเว้นที่ขนรอบคอซึ่งมีสีขาวโดยรอบเหมือนกับสวมปลอกคอสีขาว บางแห่งว่าเหมือนสวมจักรหรือพวงมาลัยรอบคอ ฟังชื่อแล้วอาจไม่ค่อยคุ้นหู นับเป็นแมวมงคลพันธุ์หนึ่ง หากเลี้ยงดีก็จะยังให้เกิดผลเพิ่มพูน ทรัพย์สมบัติมากมี อ้างอิง: https://db.sac.or.th/inscriptions/blog/detail/16348
        • นิลรัตน์แมวสีดำสนิททั้งตัว ขนเป็นมันแวววาว นอกจากนั้น เล็บ ลิ้น ฟัน และนัยน์ตา ยังเป็นสีดำอีกด้วย หางเรียวยาวตวัดได้ถึงศีรษะ ค่อนข้างหายาก หากใครเลี้ยงไว้จะมีทรัพย์สินเพิ่มพูน อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • วิลาศแมวสีดำเกือบทั้งตัว ขนเรียบ ยกเว้นใบหูทั้งสองข้าง ปากล่างลงมาถึงหน้าอก ปลายเท้าทั้งสี่ และจากท้ายทอยบนหลังจนถึงปลายหางมีสีขาว หางเรียวยาว นัยน์ตาสีเข้ม รูปร่างสวยงามน่ารัก ใครเลี้ยงจะได้เป็นเจ้าคนนายคน มีทรัพย์สินบริบูรณ์ อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • เก้าแต้มแมวสีขาว มีสีดำ แต้มสีดำรวมเก้าแห่ง คือ บริเวณหัว คอ โคนขาหน้าและโคนขาหลัง หลังทั้ง 4 ข้าง ไหล่ทั้ง 2 ข้าง และโคนหาง ลักษณะแต้มสีดำนี้จะเป็นวงกลมหรือปื้นเหลี่ยมก็ได้ ปลายหางเรียวยาว สีขาวใครได้แมวเก้าแต้มไว้เลี้ยงดูก็จะทำให้ การค้าขายรุ่งเรือง ร่ำรวย คนไทยโบราณมักเลี้ยงไว้ในพระราชสำนัก อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • แซมเศวตแมวปัศเวตหรือปัดตลอดแมวชนิดนี้มีขนสีดำเป็นมันราบเรียบ ยกเว้นปลายจมูกจนถึงปลายหางมีขาว ดวงตามีสีเหลืองดั่งพลอยสะท้อนแสง ใครเลี้ยงไว้จะช่วยชูชื่อเสียงวงศ์ตระกูลให้เป็นที่รู้จักทั่วไป อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • รัตนกัมพลมีขนสีขาวดั่งหอยสังข์ยกเว้นบริเวณลำตัวมีสีดำคาดไว้ นัยน์ตาสีทอง ตามความเชื่อ ถ้าใครเลี้ยงไว้จะมียศถาบรรดาศักดิ์ และมีอำนาจบารมี อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
      • แมวร้ายให้โทษแมวร้ายให้โทษมีทั้งหมด 6 ชนิด ได้แก่ แมวทุพลเพศ,พรรณพยัคฆ์,ปีศาจ, หิณโทษ, กอบเพลิงและเหน็บเสนียด โดยปัจจุบันได้สูญพันธ์ไปแล้ว อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • ทุพลเพศเป็นแมวร้ายชนิดหนึ่ง ลำตัวสีขาว มีดวงตาสีแดงดังโลหิตทาตาไว้ มีนิสัยไม่ดีชอบลักขโมยปลาไปกินทุกค่ำคืน ใครเลี้ยงไว้จะให้โทษไม่เป็นสุข เกิดความเดือดร้อนแรงผลาญ อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766//แมวโบราณ
        • พรรณพยัคฆ์แมวพรรณพยัคฆ์หรือแมวลายเสือ มีลักษณะคล้ายเสือ มีขนสีมะกอกเขียว หรือมะกอกแดง หยาบกระด้าง นัยน์ตาสีแดงดั่งสีเลือด เสียงร้องโหยหวนเหมือนเสียงผีโป่งร้องตามป่าเขา ชอบหลบซ่อนตามที่มืดในเวลากลางวัน ไม่ควรนำมาเลี้ยง เพราะจะทำให้เกิดความเดือดร้อน อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766//แมวโบราณ
        • ปีศาจแมวชนิดนี้มีรูปร่างเหมือนผีร้าย ตัวผอม หนังเหี่ยวยาน หางขอด นัยน์ตาสีแดงเลือด ชอบหลบตามที่มืด กลางคืนว่องไวปานผีร้าย มักเป็นเพศเมีย เมื่อคลอดลูกออกมาแล้วกินลูกตัวเอง ห้ามเลี้ยงเด็ดขาด อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • หิณโทษแมวหิณโทษหรือ แมวหินโทษ เป็นแมวเพศเมียลักษณะสวยงาม ขนงาม แต่มักแท้งลูกในท้อง อย่าเลี้ยงโดยเด็ดขาด หากเลี้ยงแมวพันธุ์นี้ จะมีภัยพิบัติมาสู่ผู้เลี้ยงและครอบครัว อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • กอบเพลิงแมวมีลักษณะ “หางคดขาวลายท้ายด่าง”คือ ตลอดตัวมีสีขาว แต่มีรอยด่างบริเวณท้ายลำตัว ชอบนอนซม คอยหลบหน้าผู้คนชอบทำตัวลึกลับ เชื่อว่าผู้ใดพบแมวนี้หรือมีไว้ครอบครองให้รีบปล่อยไปโดยไวที่สุด หาไม่แล้วโทษภัยจะมาถึงเรือน อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766/แมวโบราณ
        • เหน็บเสนียดแมวรูปร่างพิกลพิการ โคนหางเป็นสีด่าง มักขดหางไว้ใต้ก้นเสมอ มีนิสัยโหดร้าย หรือเรียกว่า “แมวผีสาง” หากมันเข้าบ้านใครให้ระวังเรื่องฟืนไฟในบ้านไว้ให้ดี เพราะบ้านอาจถูกไฟไหม้พินาศวอดวายได้ อ้างอิง: http://www.m-culture.in.th/album/197766//แมวโบราณ

แมวไทย 64 concepts

By @Sudarat_Pob